สุเทพ เทือกสุบรรณ ยันไม่ส่งตัวแทนร่วมเวทีปฏิรูปฝั่งรัฐบาลเพราะมีธงว่าต้องเลือกตั้ง - ส่วนเวทีของกองทัพเมื่อไปพูดจบแล้วจะเดินทางกลับ ย้ำไม่ร่วมกระบวนการเลือกตั้งเด็ดขาด-หากปฏิรูปไม่เรียบร้อย ชี้ประชาธิปไตยบริสุทธิ์-สมบูรณ์ ต้องปฏิรูปการเลือกตั้งและพรรคการเมือง พร้อมชวนทุกฝ่ายและ นปช. ร่วมเวทีปฏิรูป กปปส. ที่ มธ. เสาร์นี้
การปราศรัยของสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2556 (ที่มา: Blue Sky Channel)
สุเทพย้ำไม่สนเวทีปฏิรูปรัฐบาล ส่วนเวทีของกองทัพจะไปชี้แจง พูดจบแล้วก็จะเดินทางกลับ
13 ธ.ค. 2556 - เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ "คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข"หรือ กปปส. ได้ปราศรัยที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยกล่าวว่า ฝ่ายยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทำให้ประชาชนสับสนมากขึ้น อ้างว่าต้องการปฏิรูปประเทศเหมือน กปปส. แต่ขอไปเลือกตั้งก่อน แล้วค่อยปฏิรูปทีหลัง แต่เตรียมการจัดประชุมให้ฝ่ายที่เขาเกณฑ์ไว้แล้ว มาแสดงความคิดความเห็นให้สอดคล้องไปในแนวทางที่คุณยิ่งลักษณ์ต้องการ คือทำอย่างไรก็ได้ แต่ต้องเลือกตั้งก่อน แล้วค่อยปฏิรูป
สุเทพกล่าวว่า ได้มีผู้หลักผู้ใหญ่โทรศัพท์มาบอกผมว่า อย่าไปเลย ไปก็ไปรับรองความชอบธรรมของเขาเปล่าๆ ผมเลยตัดสินใจว่าวันที่ 15 ธ.ค. ที่รัฐบาลจะจัดพูดคุยเรื่องปฏิรูปการเมืองในทัศนะรัฐบาลนั้น "กปปส. จะไม่ส่งใครไปร่วมแล้วโดยเด็ดขาด เพราะไม่ต้องการเป็นเครื่องมือตัวประกอบ เพราะรู้แล้วว่าไม่ว่าจะพูดยังไง บทสรุปคือเลือกตั้งก่อน แล้วปฏิรูป เพราะฉะนั้นรู้แบบนี้ไม่ไปดีกว่า เปลืองเวลา"
ส่วนการไปร่วมเวทีเรื่องการปฏิรูปที่กองทัพจะจัดในวันที่ 14 ธ.ค. นั้น สุเทพชี้แจงว่า กปปส. จะไปเพื่อชี้แจงจุดมุ่งหมายของ กปปส. "ให้ผู้นำเหล่าทัพซักถาม ถือว่าเป็นการสื่อสารสองทาง ท่านเข้าใจแล้วจะตัดสินใจอย่างไรจะไม่บีบบังคับอะไร"
อย่างไรก็ตาม สุเทพกล่าวว่า มีข่าวมาว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผบ.ตร. ไม่ไป ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้บอกว่าจะไป และมีการซ้อมเพื่อชิงตัวแกนนำ ทำให้ผู้ชุมนุมบางส่วนอยากตามไปด้วย สุเทพกล่าวว่า ถ้ามีการบุกจับ ก็ให้จับไป จับไปแล้วก็จะเป็นการเรียกแขก โดยสุเทพได้ขอให้ผู้ชุมนุมรอฟังผลการร่วมประชุมอยู่ในที่ชุมนุม ไม่ต้องตามไปด้วย
ทั้งนี้ในการไปพบกับ ผบ.สส. นั้น สุเทพระบุว่า "จะกราบเรียน ผบ.สส. เป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจนว่า ตั้งใจจะไปพบ แล้วได้บอกเล่าให้เข้าใจว่ามวลมหาประชาชนทั่วประเทศที่ลุกฮือครั้งนี้ มีเจตจำนงร่วมกันเปลี่ยนแปลงประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์มีพระมหากษัติรย์เป็นประมุข ต้องการให้มีการปฏิรูปการเมืองก่อนการเลือกตั้งทั่วไป แล้วจะอธิบายเหตุผล หากกองทัพไทยจะจัดเวทีให้มีฝ่ายอื่นด้วยนั้นเป็นส่วนของทางกองทัพไทยจัด ส่วนผมพูดจบก็จะลุกขึ้นกลับ จะไม่โต้ตอบกับคนอื่น เพราะไม่ต้องการไปตอบโต้ ไม่ต้องการไปทะเลาะกับใคร"
โต้โฆษกกระทรวงกลาโหม ยืนยัน ปปส. ไม่แอบอ้างสถาบันกษัตริย์
สุเทพกล่าวถึง พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหมว่า ที่ท่านระบุว่ามีกลุ่มบุคคลจะดึงสถาบันมาเพื่อประโยชน์ทางการเมือง ผมไม่ทราบว่าโฆษกกระทรวงกลาโหมหมายถึงใคร แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคือยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งคงไม่ด่าพวกเดียวกัน ดังนั้นแต่เป้าหมายคงมาที่พวกเรา ถ้าเข้าใจผิดก็ขอโทษด้วย แต่เรียนว่าถ้าโฆษกกระทรวงกลาโหมมาตั้งข้อกล่าวหาว่าพวกเราแอบอ้างสถาบัน หรือดึงเอาสถาบันมาเกี่ยวข้องกับการเมือง เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง ขอเรียนว่าท่านโฆษกเข้าใจผิดแล้ว พวกเราไม่มีพฤติกรรมอย่างนั้น เราเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ และจงรักภักดี และไม่ต้องการให้ไอ้อีตนไหนดึงสถาบันลงมาเด็ดขาด นี่คือหัวใจของเรา
สุเทพกล่าวโจมตี นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมด้วยว่า ในทางกลับกัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก่อนรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ต้องถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่าต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และเคารพปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ แต่ไม่ได้ปฏิบัติตาม
โต้นักวิชาการที่ออกช่องไทยบีเอสว่า กปปส. ก็คือประชาชนผู้มีสิทธิชอบธรรมปกป้องบ้านเมือง
สุเทพ กล่าวด้วยว่าวันนี้เปิดช่องไทยพีบีเอส และกล่าวว่า "เปิดไทยพีบีเอสที่เขาบอกว่าเป็นกลาง แต่ผมโชคร้ายเปิดไปเจอช่วงกลางกระบาลพวกเราครับ เขาเชิญคนสองคนมาตีลงกลางกระบาลประชาชนเต็มเหนี่ยว ก็แล้วแต่ไทยพีบีเอส แต่ผมอยากเรียนพี่น้องว่าวันนี้ที่ไปออกรายการนั้น สองคนถล่มเราเต็มที่ คนหนึ่งก็ดุด่าว่ากล่าวทำตัวเป็นครูอาจารย์สอนพวกเรา ว่าพวกเราทำตัวไม่ถูกต้อง รัฐบาลยุบสภาแล้ว ทำไมไม่กลับไปเลือกตั้ง ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย ยังตั้งคำถามว่าอยากรู้ว่าพวกเขาเป็นใคร มีสิทธิอะไรจะไปเที่ยวพบผู้นำองค์กรเอกชน ผู้นำเหล่าทัพ"
"ผมก็ขออนุญาตตอบตรงนี้เพราะไม่ได้ออกทีวีกับเขา ท่านอาจารย์ที่เคารพที่ท่านถามว่าพวกเราเป็นใคร ผมขออนุญาตตอบว่า พวกเราเป็นประชาชน มวลมหาประชาชนเจ้าของอำนาจอธิปไตย มีสิทธิโดยชอบธรรม มีหน้าที่โดยชอบธรรมปกปักรักษาบ้านเมือง เมื่อเห็นว่ารัฐบาลทรราชย์ทำผิด บ้านเมืองเสียหาย ประชาชนจึงลุกขึ้นขับไล่รัฐบาลทรราชย์ จำใส่กบาลด้วยครับอาจารย์ อาจารย์ไปเปิดตำราก็ได้ ไม่ว่าจะเรียนจากประเทศไหน รัฐบาลที่เป็นทรราชย์ ประชาชนมีสิทธิลุกขึ้น โค่นล้มรัฐบาล"
และที่ กปปส. ต้องไปพบภาคเอกชน และ ผบ.เหล่าทัพนั้น สุเทพกล่าวว่า ไม่ได้ไปชวนเขาทะเลาะ ไม่ได้คิดไปอวดว่าเก่งกว่าเขา แล้วไปชี้หน้าด่ากราด แต่ตั้งใจไปชี้แจงว่าในหัวใจเรา เราต้องการทำอะไรนี่คือวัตถุประสงค์ที่เราไปพบผู้คนทั้งหลาย
ย้ำจะไม่ร่วมกระบวนการเลือกตั้งเด็ดขาด หากปฏิรูปไม่เรียบร้อย
สุเทพกล่าวถึงท่าทีการเลือกตั้งด้วยว่า "ไหนๆ จะพูดเรื่องที่จะไปเลือกตั้ง หรือไม่ไปเลือกตั้ง ขอประกาศชัดเจนว่า เราเหล่ามวลมหาประชาชน ที่ได้ลุกขึ้นต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันมา ไม่ไปร่วมกระบวนการเลือกตั้งกับเขาคราวนี้เด็ดขาด เราต้องการเปลี่ยนแปลง ปฏิรูปประเทศไทย ให้เสร็จเรียบร้อยเสียก่อน แล้วจึงไปเลือกตั้งกับเขา"
"เพราะประชาชนอย่างเรา เห็นชัดเจนแล้ว ว่าถ้าไปเลือกตั้งกับเขาอีกภายใต้กฎเกณฑ์กติกาเดิม คณะกรรมการการเลือกตั้งเดิม กลไกตำรวจเหมือนเดิม ผลจะเหมือนเดิม คนโกง คนซื้อเสียง จะเข้าไปนั่งในสภา คนชั่วจะสุมหัวโกงชาติ กินเมือง ประเทศจะทรุดโทรมไปอีก และเราต้องเจ็บปวดกันอีก เราไม่ต้องการเข้าไปสู่วัฏจักรนั้นอีกแล้ว เราต้องการแก้ไข ให้มีกฎเกณฑ์ กติกา ที่ป้องกันไม่ให้มีการเลือกตั้ง ไม่ให้สมคบกันหลอกลวงประชาชน และซื้อเสียง ต้องการให้การเลือกตั้ง แข่งขันด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม สะท้อนเจตนารมณ์ของประชาชนทั้งประเทศว่าต้องการใครเป็นผู้แทน และต้องการให้ใครเป็นรัฐบาล"
"นี่เป็นเหตุผลว่าเราจะไม่ยอมเป็นเครื่องมือใครแล้ว ยืนยัน นั่งยัน นอนยัน ถ้าหลับปลุกขึ้นจะตอบว่า ต้องปฏิรูปประเทศไทย ก่อนจัดเลือกตั้งทั่วไป มิเช่นนั้น ไม่ต้องมาคุยกัน"
ต้องปฏิรูปเพื่อให้มีประชาธิปไตยบริสุทธิ์ ต้องแก้ไขกฎหมายเลือกตั้ง และปฏิรูปพรรคการเมือง
สุเทพกล่าวด้วยว่า "มีการกล่าวหาว่าเราไม่เคารพประชาธิปไตย ไม่ปฏิบัติตามหลักประชาธิปไตย ขอยืนยันว่าเราทำแบบนี้เพื่อให้ประชาธิปไตยบริสุทธิ์ ประชาธิปไตยสมบูรณ์ เราทนไม่ไหวกับรัฐบาลประชาธิปไตยจอมปลอม รัฐบาลหุ่น เราทนไม่ไหวแล้ว"
"ถ้าจะให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ แสดงออกถึงความต้องการประชาชน เลือกคนดีไปทำหน้าที่แทนตัวเองจริงๆ มันมีเรื่องต้องแก้ไขหลายเรื่องก่อนจัดเลือกตั้งแบบนั้น ข้อหนึ่งต้องแก้กฎหมายเลือกตั้ง อุดช่องโหว่ให้ได้ ว่าการซื้อสิทธิ ขายเสียง ทั้งคนซื้อ คนขาย ผิดกฎหมายทั้งนั้น โดยเฉพาะนักการเมืองที่ไปซื้อเสียง ต้องเจอบทบัญญัติทางกฎหมายว่านอกจากตัดสิทธิทางการเมืองแล้ว ต้องให้ติดคุกด้วยจึงจะเข็ดหลาบ แต่นี่อะไรครับ หัวหน้าพรรค รองหัวหน้าพรรค ร่วมขบวนการซื้อเสียง พอศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรค ออกมาโวยวายว่าถูกข่มเหง ก็มึงโกงจริงๆ เมื่อก่อนชื่อไทยรักไทย โกงเลือกตั้ง เอาเลือกตั้งเป็นพิธีกรรมเข้าสู่อำนาจ ไม่คำนึงวิธีการที่ใช้ คดีสู้มา 11 เดือน ผิดจริงเขาเลยยุบพรรคไทยรักไทย ยุบแล้วไม่สำนึก โกงอีก เขาเลยยุบอีก นี่มันไม่เลิก คนพวกนี้อยู่ในสายเลือดแล้ว ไปเลือกตั้งคราวนี้ก็ทุจริตอีก อยู่ในสภาอีก เป็นสภาทาส ขี้ข้าระบอบทักษิณเหมือนเดิม เพราะฉะนั้นต้องแก้กฎหมาย"
นอกจากนี้สุเทพเสนอด้วยว่า ต้องมีการปฏิรูปพรรคการเมือง โดยกล่าวว่า "พรรคการเมืองก็ต้องปฏิรูป ที่พูดได้แบบนี้เพราะลาออกแล้ว ถ้าเราปฏิรูปได้สำเร็จ ต้องมีกฎหมายพรรคการเมืองที่เข้มแข็งกว่านี้ ไม่ให้คนๆ เดียวอ้างว่าเป็นทุกอย่างของพรรค ชี้คนในพรรคให้ทำการทุกอย่าง ไม่ให้เหมือนที่ทักษิณทำได้กับพรรคการเมืองทุกวันนี้จนกลายเป็นเผด็จการรัฐสภา"
"และต้องมีการหยั่งเสียงจากประชาชน หรือสมาชิกพรรคในเขตเลือกตั้งนั้นๆ เลือกให้มีการแข่งขันกัน เป็นการเลือกตั้งขั้นต้น ไม่ใช่หัวหน้าพรรคชอบไอ้ตู่ ไอ้เต้น ก็เอาลง แบบนี้ก็เสร็จสิครับ ต้องแก้กฎหมายการเงินของพรรค ไม่ให้เศรษฐีซื้อได้ทุกอย่าง"
เราต้องปฏิรูปให้ได้เสียก่อน แต่เขายื้อเวลา ให้เราหมดแรง แต่เขาประเมินเราผิดแล้ว เราเป็นพวกแรงไม่หมด ขนาดอายุ 64 เดินมาเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. เดินมา 20 กิโลเมตร สบายไม่มีอะไรเลย นอกจากนี้สุเทพ ชี้แจงด้วยว่าในการพบปะสื่อมวลชนวันนี้ สื่อมวลชนได้เข้าใจการต่อสู้ของ กปปส. แล้ว
ชวนทุกฝ่ายรวมทั้งเสื้อแดงร่วมเวทีปฏิรูปของ กปปส. ที่ ม.ธรรมศาสตร์เสาร์นี้
ในช่วงท้าย สุเทพ ชี้แจงกิจกรรมเวทีปฏิรูปการเมืองของ กปปส. ว่าจะจัดที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในวันที่ 14 ธ.ค. เริ่มตั้งแต่เวลา 9.30 น. สุเทพกล่าวว่า จะมีประชาชนทุกภูมิภาคในประเทศไทยมาฟังเรื่องนี้ "พี่น้องว่างๆ ตื่นเช้าๆ ไปได้ที่หอประชุมใหญ่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีเจตนาที่จะปฏิรูปประเทศไทย ทำให้เสร็จก่อนเลือกตั้งทั่วไป หากเขาไม่เข้าใจจะให้เขาซักถาม และรับฟังความเห็นพี่น้องประชาชนสาขาต่างๆ ที่ไปร่วมที่ธรรมศาสตร์ นี่เรียกว่าเราเปิดใจกว้างรับฟังทุกฝ่าย และคาดหวังว่าที่หอประชุมใหญ่จะมีมวลชนคนเสื้อแดงที่เป็นพี่น้องประชาชนรากหญ้าจะมาร่วมกับเราที่ธรรมศาสตร์บ้าง แต่ไม่ต้อนรับ 'ณัฐวุฒิ - จตุพร - วีระ'นี่ประกาศไว้ก่อน"
"เราจะไม่ยอมเหน็ดเหนื่อย อ่อนล้า เดินหน้าสุดกำลัง และคณะกรรมการ กปปส. เราจะไปอธิบายคนกลุ่มต่างๆ ให้เขามาเข้าใจกับเรา พี่น้อง 5 ล้านคนที่ลุกขึ้นมาก็เช่นเดียวกัน ที่มาชุมนุมเมื่อ 9 ธ.ค. อย่าท้อนะครับใครจะว่าอย่างไรก็อธิบายชี้แจงว่าเราไม่ยอมแล้ว เราทนมามากแล้วไม่ทนต่อไปแล้ว ที่เขาบอกว่ายิ่งลักษณ์เป็นรัฐบาล ขอให้ชี้แจงว่า คุณยิ่งลักษณ์นี่เป็นผีของรัฐบาล เพราะรัฐบาลตายไปแล้ว เพราะไม่ยอมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และตายซ้ำเมื่อประชาชนเขาลุกขึ้นมา ที่เห็นนั้นเป็นผี ผี ผี และเราจะหาหมอผีเรียกลงหม้อ เอาไปลอยแม่น้ำเจ้าพระยาออกทะเลไป จะดื้อด้านขนาดไหนให้รู้ไป"
"พี่น้องเราต้องขยันสักหน่อย เชิญชวนประชาชนคนไทยอื่นๆ ให้ตื่นรู้ ให้ลุกขึ้นมาต่อสู้กับเรา เพราะการต่อสู้ของพลเมืองดีไม่มีอาวุธต้องการการสนับสนุนของประชาชนมากมายมหาศาล และเราจะไม่ลดละความพยายาม เดิมที่เรากังวลว่าสื่อไม่เข้าใจ ไม่เสนออย่างตรงไปตรงมา ขอเรียนว่าสื่อเข้าใจดีแล้ว เหลือว่าจะเสนอข่าวอย่างไรเท่านั้น ในส่วนของข้าราชการ ผมเรียนพี่น้องว่า ข้าราชการส่วนใหญ่วันนี้ใจอยู่กับประชาชน เหลือแต่คนใหญ่ๆ โตๆ ที่ได้รับการเลื่อนยศเพราะรัฐบาลนี้ เพราะทักษิณเป่ากระหม่อมมา นั่นยังหนาอยู่ ซึ่งเราจะพยายามขูดกันต่อไป"
สุเทพเตือนเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ถ้าอยากจับเขาไม่ต้องไปซ้อมแผนจับกุม หรือซ้อมโรยตัวจากเฮลิคอปเตอร์ แต่ให้มาจับ ณ ที่ชุมนุมได้เลย "ไม่ต้องลำบาก เดินมาเลย มาจับตรงนี้ ผมบอกคุณอดุลย์ แสงสิงห์แก้ว เป็นตำรวจที่ดี ผมโทรศัพท์ไปก็บอกว่าอยากพบกับผมที่ ผบ.เหล่าทัพ มาวันนี้คุณบอกไปพบไม่ได้เพราะมีหมายจับ อะไรกันนักกันหนา ทีไปพบกับทักษิณ นั่นยิ่งกว่าหมายจับ เป็นนักโทษหนีคุก เอาเถอะจะแก้ตัวอย่างไรก็เรื่องของคุณ ผมขอบอกว่าผมประกาศแล้วว่าไม่หนี อยู่ที่นี่ อยู่ประเทศไทย ออกมาเถอะกี่ใบ ผมมอบตัวแน่นอนให้ผมเสร็จธุระขจัดระบอบทักษิณเสียก่อน แล้วจะไปมอบตัว"
เลขาธิการ กปปส. ทิ้งท้ายด้วยว่า เมื่อการต่อสู้ยืดเยื้อ กปปส. จึงจำเป็นต้องจัดองค์กรต่อสู้ของเราให้กระชับขึ้น ขอกราบเรียนว่าทุกเครือข่ายในแต่ละจังหวัด ให้รวมกันเป็น กปปส. จังหวัดนั้นๆ จะได้นัดหมาย ประสานงาน ในการรวมพลังต่อสู้กับระบอบทักษิณให้เข้มข้นแข็งแรงขึ้น ได้รับแจ้งจากนครราชสีมา ว่าเขาตั้ง กปปส. นครราชสีมาแล้ว โดยมีคณะกรรมการ 5 คน