‘ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ’ มองบทบาทสื่อ และหนทางหลุดจาก ‘เผด็จการเสียงข้างมาก’

นักธุรกิจรุ่นใหม่มองบทบาทสื่อและหนทางออกจากกับดักเผด็จการเสียงข้างมาก ชี้สื่อมีภารกิจสร้างข้อมูลข่าวสารคุณภาพเพื่อให้คนตัดสินใจ เชื่องานข่าวที่ดีสำคัญกับประชาธิปไตยและยังขายได้ 

ปลายเดือนพฤศจิยายนที่ผ่านมา มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน (มสช.) ภายใต้การสนับสนุนโดยโครงการสะพานเสริมสร้างประชาธิปไตย จัดให้มีการอบรม “โครงการเสริมศักยภาพสื่อมวลชนด้านธรรมาภิบาล การเงินและธุรกิจ (Business & Finance Training)” เพื่อเพิ่มองค์ความรู้ ทักษะการตรวจสอบด้านเศรษฐกิจ การเงิน การคลัง ทั้งระดับจุลภาคและมหภาค ให้แก่สื่อมวลชนเพื่อความเข้าใจเรื่องงบการเงิน , ตลาดการเงินและความเสี่ยง , โลกาภิวัฒน์และเศรษฐกิจโลก

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ  รองประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทไทยซัมมิท เป็นวิทยากรหลักในการบรรยาย โดยวันสุดท้ายของการอบรม เขากล่าวถึงเหตุผลที่รับอบรมว่า เป็นเพราะมีความเชื่อว่า journalism หรือการสื่อสารมวลชน เป็นสิ่งสำคัญ และคิดว่า หากเราจะหลีกหนีจากเผด็จการเสียงข้างมากในสังคมประชาธิปไตยได้ ต้องประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลักๆ คือ 1)สังคมนั้น ต้องเป็นนิติรัฐ การบังคับใช้กฎหมายต้องเท่าเทียมกัน 2) ต้องมี freedom of speech ทุกคนสามารถวิพากษ์วิจารณ์ผู้มีอำนาจได้ และ 3) ต้องมี การไหลเวียนของ information ที่ดีในสังคม ถ้ามี 3 อย่างนี้ แล้วจะมีเผด็จการเสียงข้างมาก ก็ต้องยอมรับมัน

“ถ้ามีกลไกทำให้เกิดการตรวจสอบ เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ผู้มีอำนาจได้ “เสียงข้างมาก” เป็นสิ่งที่เราต้องยอมรับ เพราะมีความใกล้เคียงกับอุดมคติในเรื่องการตัดสินใจหรือ “ฉันทามติ” มากที่สุด เนื่องจากในสังคมที่มีความหลากหลายอย่างในสังคมปัจจุบัน การมีฉันทามติ เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ แต่เสียงที่ใกล้เคียงกับฉันทามติมากที่สุด ก็คือ เสียงข้างมาก ถ้าสังคมมี 3 องค์ประกอบหลักๆ ดังกล่าวแล้ว เสียงข้างมากจะเป็นอย่างไรก็ต้องยอมรับมัน และผมเชื่อว่าเพื่อจะเติมเต็มอย่างนั้น วิชาชีพสื่อมวลชน จึงเป็นเรื่องสำคัญ การรายงาน ถึงเรื่องความเฮงซวยของผู้บริหาร จะนำมาซึ่งการปรับปรุงของผู้บริหารและ จะลดการเอาเปรียบประชาชนผู้เสียภาษีให้มีน้อยลง นอกจากนั้น จะนำมาซึ่งการปกป้องผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นรายย่อยมากขึ้น การรายงานเรื่องการฉ้อโกงของนักการเมือง หรือ ข้าราชการ จะนำมาซึ่งสังคมที่ผู้เสียภาษีถูกเอาเปรียบน้อยลง การรายงานเรื่องโรงงานที่ผลิตของเสีย โรงงานที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน จะนำมาซึ่งการบริหารจัดการบริษัทที่ให้ความเคารพสิทธิมนุษยชน ให้ความเคารพต่อสิ่งแวดล้อม นั่นคือสิ่งที่ผมเชื่อ” ธนาธรกล่าว
 

เขากล่าวด้วยว่า หนึ่งในเรื่องหลักวิชาชีพของสื่อมวลชน ก็คือการเป็นปากเป็นเสียง ให้กับผู้ที่ไม่มีเสียง นักสื่อสารมวลชนมีภารกิจทางสังคม จึงได้รับการปกป้องจากสังคม เพราะคุณมีภารกิจ ภารกิจคือ การให้ผู้มีอำนาจทางสังคมรับใช้เจ้าของอำนาจ ดึงผู้มีอำนาจทางสังคม จากฟ้าลงมาสู่ดิน ให้เขาตอบรับกับผู้ที่เป็นเจ้าของอำนาจ ผู้ที่เป็นเจ้าของเงินนั้น

“ผมเชื่อว่า การข่าวที่ดีสำคัญกับประชาธิปไตย ผมเชื่อว่าการข่าวที่ดี ยังขายได้ในทางธุรกิจ  ข่าวเจาะที่ลึก การรายงานข่าวที่มีสาระต่อสังคม การรายงานข่าวในเนื้อหาเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างละเอียด อย่างลึก อย่างรอบด้าน เป็นความสำคัญของประชาชน และ ถ้าคุณทำได้ประชาชนจะอ่านข่าวของคุณ ถ้าคุณรายงานข่าวที่มันสำคัญกับชีวิตความเป็นอยู่ของเขาได้ เขาจะมาอ่านคุณ ผมคิดว่า การข่าวยังขายได้ ไม่ว่าสื่อหรือช่องทางเอาข่าวไปใช้ จะเป็นช่องทางไหนก็แล้วแต่ในโลกการสื่อสารไร้พรมแดน” ธนาธรกล่าว