หลังจากที่เมื่อต้นเดือนกันยายน เกิดเหตุชาวโรงฮิงยา 105 คนที่ถูกกักไว้ที่ตม. หนองคายลุกฮือก่อความวุ่นวายเรียกร้องไปประเทศที่ 3 จนในที่สุดเจ้าหน้าที่ต้องชาวโรฮิงญาที่ก่อเหตุจำนวน 84 คนไปฝากขังตามโรงพัก 5 แห่ง วันนี้ชาวหนองคายได้ระดมเสื้อผ้า-อาหารเยี่ยมชาวโรฮิงญากลุ่มดังกล่าว
โดยเว็บไซต์หนองคายนิวส์ออนไลน์ รายงานว่า วันที่ 11 กันยายน 2556 บรรยากาศทั่วไปที่ สภ.ศรีเชียงใหม่ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งใน สภ. 5 แห่ง ในจังหวัดหนองคาย ที่ใช้ควบคุมตัวชาวโรฮิงญาที่สมัครใจ มีชาวบ้านในพื้นที่อำเภอศรีเชียงใหม่และอำเภอใกล้เคียง ต่างพากันนำอาหารที่ปรุงแบบที่มุสลิมรับประทานได้รวมทั้งเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มมามอบให้กับชาวโรฮิงญา สร้างรอยยิ้มและภาพประทับใจให้กับผู้ที่พบเห็น รวมทั้งทำให้ชาวโรฮิงญาที่ถูกควบคุมตัวมีสีหน้าสดชื่น ผ่อนคลาย
นายโมฮัมหมัด ชอชะ อายุ 24 ปี ชาวโรฮิงญาที่ถูกควบคุมตัวเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าประทับใจในความมีน้ำใจของคนไทยเป็นอย่างมาก ถึงแม้พวกตนจะเป็นคนที่ไร้ประเทศ ต้องอพยพหนีตายจากแผ่นดินเกิด ล่องเรือ ไม่รู้จะไปไหน แต่เมื่อได้พบน้ำใจของคนไทยพวกตนรู้สึกประทับใจจริงๆ
ด้าน พ.ต.ท.อรรถศักดิ์ ศิริพานิช รอง ผกก.ปป.สภ.ศรีเชียงใหม่ กล่าวว่าชาวโรฮิงญาที่ถูกนำมาควบคุมตัวที่ สภ.ศรีเชียงใหม่ทั้ง 11 คน ไม่ได้สร้างปัญหาหรือก่อความวุ่นวาย โดยเจ้าหน้าที่ได้มีการนำออกจากห้องควบคุมครั้งละ 2 คน เพื่อให้ออกมานั่งเล่นด้านนอกเพื่อผ่อนคลาย โดยอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิด ซึ่งทำให้ชาวโรฮิงญาที่ถูกควบคุมอยู่ต่างรู้สึกผ่อนคลาย ไม่เครียด ส่วนเรื่องอาหารได้มีชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างนำอาหารรวมทั้งเสื้อผ้ามามอบให้
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 4 กันยายน ที่ผ่านมา ชาวโรฮิงญาที่ถูกกักตัวไว้ที่ ตม. หนองคาย ได้ก่อเหตุพยายามพังที่พัก ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้าควบคุมสถานการณ์ และจากนั้นวันที่ 7 กันยายน พล.ต.ต.นุชิต ศรีสมพงษ์ ผบก.ตม.4 พล.ต.ต.สมยศ พรหมนิ่ม ผบก.ภ.จว.หนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่กว่า 200 นาย ควบคุมตัวชาวโรฮิงญา จำนวน 84 คน ออกจากอาคารควบคุมผู้หลบหนีเข้าเมือง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) หนองคาย แยกไปควบคุมตัวชั่วคราวไว้ที่ สภ.เมืองหนองคาย สภ.สระใคร สภ.สังคม สภ.ศรีเชียงใหม่ และ สภ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย โดยระหว่างนี้จะทำการซ่อมแซมห้องควบคุมชั้นบนของอาคารสำนักงาน ตม.หนองคาย และเมื่อซ่อมแซมเสร็จแล้วจะนำชาวโรฮิงญาดังกล่าวกลับมาควบคุมไว้ที่ ตม.หนองคาย ตามเดิม
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้มีเจ้าหน้าที่สถานทูตบังกลาเทศเดินทางมาพิสูจน์สัญชาติชาวโรฮิงญา พบว่ามีชาวโรฮิงญา 5 คน มีสัญชาติบังกลาเทศ ซึ่งรัฐบาลบังกลาเทศยินดีรับกลับประเทศ จึงได้มีการส่งตัวชาวโรฮิงญาทั้ง 5 คนดังกล่าวไปยัง กก.3 บก.สส.สตม. ที่กรุงเทพฯ เพื่อดำเนินการผลักดันกลับประเทศบังกลาเทศต่อไป
ภาวะตึงเครียด ถูกขังเกิน 6 เดือน
ชาวโรฮิงญากลุ่มนี้ถูกจับกุมสะสมในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งมีชาวโรฮิงญาถูกจับกุมกว่า 2,000 คน โดยเบื้องต้นรัฐบาลมีนโยบายกักไว้ในห้องกักของ ตม. และบางส่วนที่เป็นเด็กและสตรี ถูกแยกไปฝากไว้ในความดูแลของบ้านพักในสังกัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยคาดว่าจะใช้เวลา 6 เดือนในการหาแนวทางปฏิบัติต่อพวกเขาต่อไป ทั้งนี้ห้องกักแต่ละแห่งมีพื้นที่จำกัด จึงมีการแยกชาวโรฮิงญาเป็นหลายกลุ่มแยกย้ายไปฝากตัวไว้ตามห้องกักต่างๆ ทั่วประเทศ รวมถึงหนองคายด้วย แต่เมื่อครบกำหนด 6 เดือน ยังไม่มีความคืบหน้าที่ชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายและให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ดูแลพวกเขาต่อไป โดยสถานการณ์ช่วงใกล้ครบกำหนด 6 เดือนมีความตึงเครียด และเกิดกรณีพยายามพักห้องกักครั้งใหญ่ทั้งหมด 3 กรณีได้แก่
30 ก.ค. 2556 เหตุจลาจในห้องกัก ตม. สะเดา จ.สงขลา
8 ส.ค. 2556 เหตุจลาจในห้องกักโรฮิง ตม. พังงา
4 ก.ย. 2556 เหตุจลาจในห้องกักโรฮิง ตม. หนองคาย
ล่าสุดพบชาวโรฮิงญาอีก 219 เรือเกยตื้นที่สตูล
สำหรับสถานการณ์ล่าสุด ไทยรัฐออนไลน์รายงานว่าเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. ของวันที่ 11 ก.ย. นายประพัน ขาวดี กำรัน ต. ขอนคลาน อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีเรือบรรทุกชาวโรฮิงญาถูกคลื่นซัดเกยตื้นอยู่ในทะเลอันดามัน ห่างจากชายฝังบ้านราไวเหนือ หมู่ 2 ต. ขอนคลานประมาณ 500 เมตร โดยชาวโรฮิงญาที่พบมีจำนวนทั้งสิ้น 219 คน เป็นชายทั้งหมด มีลักษณะอิดโรย เนื่องจากอดอาหารกว่า 10 วัน และมีคนไข้และท้องเสียประมาณ 3-4 คน เบื้องต้นได้รานงานนายวัชระศักดิ์ จุลยานนท์ นายอำเภอทุ่งหว้า และนายสามารถ สุวรรณมณี ป้องกันภัยจังหวัด โดยชาวบ้านได้ให้ความช่วยเหลือดูแลในเบื้องต้น และพาไปพักในอาคารอเนกประสงค์ริมหาดบ้านราไวเหนือ พร้อมนำเสื้อผ้าอาหารมาให้กินประทังชีวิตไปก่อน