ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่ง 50 เหยื่อไฟใต้ไปทำฮัจญ์ รวมทายาทผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ เจอปัญหาวีซ่าไม่ออก ต้องเลื่อนเดินทาง
เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2556 ที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) อ.เมือง จ.ยะลา ศอ.บต.จัดการอบรมผู้ที่จะเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ณ เมืองเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบียในโครงการนำคุณค่าฮัจญ์มาเสริมสร้างสังคมสันติสุข ซึ่งเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ อันเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวม 50 คน
ทั้ง 50 คน ประกอบด้วย ทายาทผู้เสียชีวิตหรือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ 22 คน กลุ่มทายาทผู้เสียชีวิตจากปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ 5 คน กลุ่มทายาทผู้เสียชีวิตที่เป็นผู้นำศาสนาและบุคลากรทางศาสนา 8 คน กลุ่มทายาทของเจ้าหน้าที่รัฐ 12 คน และเจ้าหน้าที่ศอ.บต. 3 คน
การอบรมครั้งนี้ มีการให้ความรู้เกี่ยวกับความสำคัญของการทำฮัจญ์ที่สมบูรณ์ สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อิสลามในนครมะดีนะห์และนครเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย การทำพิธีฮัจญ์และอุมเราะห์ และการเตรียมตัวก่อนออกเดินทาง
ดร.มะรอนิง สะแลมิง รองเลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวในการอบรมว่า การทำฮัจญ์ เป็นหลักการอิสลาม ประการที่ 5 ที่บังคับให้มุสลิมทุกคนต้องปฏิบัติเพียงครั้งเดียว ตามความสามารถของแต่ละคน ทั้งด้านสุขภาพร่างกาย ทรัพย์สินเงินทองและความปลอดภัยในการเดินทาง แต่หากใครมีความสามารถจะทำพิธีฮัจญ์หลายครั้งก็ได้ โดยผู้ประกอบพิธีฮัจญ์ทุกคนต้องตั้งเป้าหมายสูงสุด คือการได้ทำฮัจญ์ที่สมบูรณ์ หรือเรียกว่า ฮัจญ์มับบูร หมายถึงฮัจญ์ที่ได้รับการตอบรับจากอัลลอฮฺ
ดร.มะรอนิง กล่าวอีกว่า คนที่ได้ไปทำฮัจญ์ ถือเป็นแขกของอัลลอฮฺ ไม่ใช่ว่าทุกจะได้ไป ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความประสงค์ของอัลลลอฮฺ แม้ไม่ว่าคนนั้นจะมีความสามารถหรือมีความพร้อมมากแค่ไหน แต่ถ้าอัลลอฮฺไม่ประสงค์สุดท้ายก็ไม่สามารถไปได้
ทั้งนี้ ตามกำหนดการเดิม ผู้ที่จะไปประกอบพิธีฮัจญ์กลุ่มนี้จะออกเดินทางในวันที่ 11 กันยายน 2556 ด้วยเครื่องบินเช่าเหมาลำที่สนามบินหาดใหญ่ จ.สงขลา แต่จำเป็นต้องเลื่อนออกไปก่อน เนื่องจากกระทรวงต่างประเทศซาอุดีอาระเบียยังไม่ออกวีซ่าให้ ทำให้ต้องรอวีซ่าก่อนจึงจะสามารถออกเดินทางได้ ซึ่งยังไม่ไม่แน่ชัดว่าจะได้รับวีซ่าเมื่อไหร่