นัดเจรจาสามฝ่ายระหว่างนายจ้าง-สหภาพแรงงานจีเอ็ม-กระทรวงแรงงาน ล่ม หลังนายจ้างไม่มาเจรจา เหตุกังวลไม่ปลอดภัย ด้านคนงาน 14 คนโกนหัวประท้วง จี้รัฐจัดการตามกฎหมาย
กรณีสหภาพแรงงานเจนเนอรัลมอเตอร์ (จีเอ็ม) ประเทศไทย ใช้สิทธิหยุดงาน เพื่อประท้วงที่บริษัทต้องการเปลี่ยนสัญญาจ้างจากกำหนดวันทำงานปกติ 5 วันเป็น 6 วัน โดยให้วันเสาร์เป็นวันบังคับทำงานปกติ ขณะที่บริษัทฯ สั่งปิดงานในส่วนของสมาชิกสหภาพ ตั้งแต่วันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา จากนั้น สมาชิกสหภาพฯ ได้ร้องเรียนกระทรวงแรงงานเข้ามาแก้ปัญหา โดยมีการเจรจาแล้ว 1 ครั้งเมื่อวันที่ 22 มี.ค. ที่ระยอง แต่ไม่มีความคืบหน้า
ล่าสุด วันนี้ (1 เม.ย.56) มีการนัดเจรจาสามฝ่าย ที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานชลบุรี (ศรีราชา) ชัยวัฒน์ วงษ์สุวรรณ รองประธานสหภาพแรงงานจีเอ็ม ประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ว่า คณะกรรมการสหภาพแรงงานฯ และทีมเจรจา 14 คน ได้โกนผมประท้วง เพื่อแสดงสัญลักษณ์ว่านายจ้างเอาเปรียบ ขณะที่กระทรวงแรงงานเองก็ไม่เด็ดขาดพอในการบังคับใช้กฎหมาย โดยมีพนักงาน 200-300 คน มาให้กำลังใจ แต่นายจ้างไม่มาตามนัด โดยให้เหตุผลว่ากังวลเรื่องความปลอดภัย
ชัยวัฒน์ กล่าวต่อว่า คนงานพร้อมเจรจา แต่นายจ้างกลับเล่นแง่ และไปทำสัญญารายบุคคล ทั้งที่เรื่องนี้ต้องคุยกันบนโต๊ะเจรจา มีคนงานหลายคนที่ไม่ได้ยินยอม แต่สายป่านการต่อสู้ไม่ยาวพอจึงต้องกลับเข้าทำงาน นอกจากนี้ จากการเก็บข้อมูลของสหภาพฯ พบว่าล่าสุด มีพนักงานที่ปฏิเสธทำสัญญารายบุคคล โดนเลิกจ้างแล้ว 70-80 คน
ชัยวัฒน์ กล่าวว่า ถ้านายจ้างทำแบบนี้ เท่ากับไม่สุจริตในการเจรจา แต่ต้องการล้มล้างสหภาพแรงงาน ลูกจ้างไม่ได้ขออะไรเลย เพียงแต่พยายามรักษาสภาพการจ้างเท่านั้น ทั้งนี้ ย้ำถึงรัฐบาลว่า ตาม พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ การเปลี่ยนสัญญาจ้างจะทำได้ต่อเมื่อเป็นคุณกับลูกจ้างยิ่งกว่าเท่านั้น ดังนั้น รัฐเองต้องกล้าบังคับใช้กฎหมาย ไม่ใช่บอกว่าไม่มีสิทธิบีบคอนายจ้าง ซึ่งทำแบบนี้ ลูกจ้างที่สายป่านไม่ยาวพอ ย่อมเสียเปรียบอยู่แล้ว
รองประธานสหภาพแรงงานฯ ระบุว่า ในวันพุธที่ 3 เม.ย. สหภาพแรงงานฯ จะเข้าให้ข้อมูลกับคณะกรรมาธิการการแรงงาน รัฐสภา ต่อกรณีดังกล่าว ทั้งนี้ มีการเรียกนายจ้างเข้าชี้แจงด้วย แต่ไม่มั่นใจว่านายจ้างจะมา ส่วนการเจรจาสามฝ่ายครั้งต่อไป กระทรวงแรงงานจะเป็นผู้ประสานให้อีกที