ตำรวจรัสเซียบุกโรงงานนรกจับแรงงานเวียดนาม 1,200 คน
1 ส.ค. 56 - ตำรวจรัสเซียบุกจับกุมตัวชาวเวียดนาม 1,200 คน ในการบุกจู่โจมโรงงานนรกแห่งหนึ่ง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงมอสโก ซึ่งมีแรงงานผิดกฎหมายอาศัยอยู่ในสภาพเสื่อมโทรมสกปรก โดยตำรวจรัสเซียกล่าวหลังจากปฏิบัติการเมื่อวันพุธว่า แรงงานเหล่านี้อาศัยอยู่ในสภาพที่ไม่ถูกสุขลักษณะกับครอบครัวของพวกเขา ซึ่งมีทั้งผู้หญิงตั้งครรภ์ และเด็กทารกที่ยังไม่หย่านม นอกจากนี้ ตำรวจยังพบผู้หญิงในสภาพได้รับบาดเจ็บรุนแรงจากการถูกมีดบาด ซึ่งไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสมถูกวิธี
ด้านกระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉิน ได้ตั้งเต็นท์ให้เป็นที่พักชั่วคราวของแรงงานอพยพเหล่านี้เมื่อวันพฤหัสบดี โดยมีเครื่องทำครัวพร้อมเพื่อให้พวกเขาได้ทำอาหารกินกัน
ตำรวจรัสเซียบุกกวาดล้างโรงงานนรก ซึ่งมีแรงงานอพยพจากเวียดนามและเอเชียกลางอาศัยอยู่ในสภาพที่น่ากลัว และถูกนายจ้างเอารัดเอาเปรียบ แต่ก็มีตำรวจรับสินบนจากแรงงานอพยพเหล่านี้เช่นกัน
พนักงานร้านเบอร์เกอร์คิงในญี่ปุ่นถูกไล่ออก หลังทวีตภาพตัวเองขณะนอนเล่นอยู่บนกองขนมปังเบอร์เกอร์
5 ส.ค. 56 - พนักงานร้านเบอร์เกอร์คิงในญี่ปุ่นถูกไล่ออก หลังทวีตภาพตัวเองขณะนอนเล่นอยู่บนกองขนมปังเบอร์เกอร์ ซึ่งเรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์รุนแรงจากชุมชนออนไลน์
ภายหลังพนักงานชาวญี่ปุ่นผู้นี้ได้ลบบัญชีทวิตเตอร์ของตนเอง ซึ่งมีภาพถ่ายอื่นๆ ของเขาในการทำท่าเล่นสนุกกับอุปกรณ์ในร้าน
"คุณคิดว่าผมทำเบอเกอร์กี่ชิ้น? ลองนับดูสิ"เป็นข้อความที่เขาเขียนบรรยายรูปของเขาที่บัญชี@inotayuta
นอกจากพฤติกรรมสุดห่าม รูปถ่ายถังสกปรกที่วางอยู่ข้างๆ พนักงานคนนี้ยังก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในเว็บบอร์ด 2ch ซึ่งเป็นกระดานสนทนาออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ผู้คนมากมายเรียกร้องให้บริษัทลงโทษพนักงงานในรูป เนื่องจากญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ผู้บริโภคมีความคาดหวังสูงในแง่ของการบริการ และความสะอาดของอาหาร
เบอร์เกอร์คิงญี่ปุ่นออกแถลงการณ์ขออภัยสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว และชี้แจงว่าไม่ได้มีการจำหน่ายเบอร์เกอร์ในรูปให้แก่ลูกค้า และเบอร์เกอร์ในส่วนนั้นคือของที่ทางร้านเตรียมจะทิ้งอยู่แล้ว อย่างไรก็ดีทางบริษัทมีแผนที่จะอบรมพนักงานในเรื่องการบริการลูกค้าและความสะอาดของอาหารให้เข้มงวดยิ่งกว่านี้
คนงานอังกฤษ 1 ล้านคนได้ค่าจ้างเฉพาะชั่วโมงที่ทำเท่านั้น
5 ส.ค. 56 -ผลสำรวจพบว่า ชาวอังกฤษ 1 ล้านคนทำงานโดยไม่มีหลักประกันเรื่องค่าจ้างขั้นต่ำหรือชั่วโมงการทำงาน โดยจะได้ค่าจ้างเฉพาะชั่วโมงที่ทำงานเท่านั้น หรือที่เรียกว่า สัญญาจ้างศูนย์ชั่วโมง ขณะที่สำนักงานสถิติของอังกฤษประเมินว่ามีเพียง 250,000 คน
สถาบัน CIPD ของอังกฤษ ซึ่งเป็นองค์กรใหญ่ด้านทรัพยากรมนุษย์ เผยผลการสำรวจกับนายจ้างกว่า 1,000 รายว่า คนงานชาวอังกฤษร้อยละ 3-4 หรือราว 1 ล้าน คนทำงานด้วยสัญญาจ้างศูนย์ชั่วโมง เป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทั้งที่ยุโรปส่วนใหญ่และสหรัฐแทบไม่มีการจ้างงานแบบนี้ สะท้อนว่าเศรษฐกิจอังกฤษไม่สามารถจ้างงานคนได้เพียงพอ
ตัวเลขนี้ต่างจากที่สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษเพิ่งประกาศเมื่อสัปดาห์ก่อน แก้ไขตัวเลขชาวอังกฤษทำงานด้วยสัญญาจ้างศูนย์ชั่วโมงจาก 200,000 คน เป็น 250,000 คน โดยออกตัวว่าตัวเลขที่แท้จริงอาจมากกว่านี้ เพราะไม่ได้สอบถามผู้ทำงานเป็นกะว่าทำงานด้วยสัญญาแบบนี้หรือไม่
พนักงานลาคอสต์ถูกไล่ออก หลังจากโพสต์รูปภาพสลิปเงินเดือนที่ไม่พอเลี้ยงดูครอบครัวได้
เวด กลูม พนักงานชายของลาคอสต์ ธุรกิจขายเครื่องแต่งกายชื่อดัง ถูกบริษัทไล่ออกหลังจากที่โพสต์ภาพสลิปเงินเดือนลงในอินสตาแกรม พร้อมกล่าว เงินเดือนที่ได้รับไม่เพียงพอกับการเลี้ยงดูอดีตภรรยา และลูกแฝดวัย 4 ปี
พนักงานขายชายแบรนด์ชั้นนำ กล่าวว่า ตอนที่โพสต์รูปสลิปเงินเดือนระยะไกลนั้นเพียงแค่ต้องการแสดงความรู้สึกท้อแท้กับค่าครองชีพที่สูงลิ่วในนิวยอร์ก
“ผมได้เงินจากค่าขายเสื้อสัปดาห์ละ 1,500 เหรียญสหรัฐ (ราว 4.5 หมื่นบาท) แต่ผมไม่สามารถให้ลูกมีชีวิตที่ดีขึ้นได้ แม้ว่าผมจะทำงานหนักแค่ไหนก็ตาม” กลูม กล่าว พร้อมระบุว่า ได้ค่าจ้าง 15 เหรียญสหรัฐต่อหนึ่งชั่วโมง และได้ค่าคอมมิชชั่นเพียง 3% ในช่วงการทำงานสามเดือนที่ผ่านมา
หลังจากที่โพสต์สลิปเงินเดือนดังกล่าวเพียง 2 สัปดาห์ ส่งผลให้ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคลแจ้งกับกลูมว่า บริษัทไล่ออก เนื่องจาก รูปดังกล่าวขัดกับข้อตกลงการรักษาความลับของบริษัท
ทั้งนี้ กลูมยังคงย้ำว่า ภาพที่ถ่ายเป็นภาพระยะไกลที่ไม่สามารถมองเห็นตัวเลขบนสลิปได้ พร้อมบอกว่า ลาคอสต์เข้าใจสถานการณ์นี้ผิด
จำคุกสตรีสิงคโปร์ทำร้ายร่างกายแม่บ้านอินโดนีเซีย
7 ส.ค. 56 - สตรีชาวสิงคโปร์คนหนึ่ง ถูกลงโทษจำคุก 21 เดือนในวันนี้ ฐานทำร้ายร่างกายแม่บ้านชาวอินโดนีเซีย ด้วยการโจมตีที่ผู้พิพากษาระบุว่า เป็นการกระทำที่น่ารังเกียจต่อเพื่อนมนุษย์ โดยผู้พิพากษาโลว์ วี ปิง กล่าวว่า การลงโทษอย่างรุนแรงของนางชาน เฮย์ เฟิร์น ที่กระทำต่อแม่บ้านของเธอ เป็นหนึ่งในคดีที่ สร้างความเศร้าใจอย่างที่สุด ในคดีทำร้ายร่างกายแม่บ้านในสิงคโปร์
“นางชาน เฮย์ เฟิร์น ถูกลงโทษจำคุก 21 เดือนในวันนี้” โฆษกหญิงของศาลกล่าว
สื่อท้องถิ่น รายงานว่า นางชาน วัย 32 ปี ถูกดำเนินคดีใน 5 คดี ฐานทำร้ายร่างกายแม่บ้าน และว่าการกระทำความผิดเกิดขึ้นในเดือน ธ.ค. 2553 โดยในช่วงกลางเดือนธ.ค. นางชานได้ต่อยแม่บ้านชาวอินโดนีเซีย วัย 25 ปีเข้าที่เป้าตา เมื่อเธอรู้สึกห่วงขณะเลี้ยงลูก 2 คนของนางชาน ในอีก 12 วันต่อมา แม่บ้านผู้นี้กล่าวว่า นางชานโจมตีเธออีกที่ไม่ตรวจอุณหภูมิของลูกชายของเธอ โดยจับศีรษะเธอโขกกับประตูห้องน้ำ และเตะเข้าที่อวัยวะเพศของเธอ จากนั้นในวันที่ 31 ธ.ค.ปีเดียวกัน นางชานก็ทำร้ายเธออีก
ยืนยันคนงานเชือดไก่ติดเชื้อไข้หวัดนก
13 ส.ค. 56 - สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 11 ส.ค.ว่า กรมสาธารณสุขรัฐกวางตุ้ง แถลงว่า หญิงวัย 51 ปี อาชีพคนงานเชือดไก่ อยู่ที่ตลาดท้องถิ่นแห่งหนึ่ง มีอาการป่วยหนักหลังถูกนำส่งโรงพยาบาลในมณฑลกวางตุ้ง เมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา เพราะมีอาการไข้ขึ้นสูง โดยผลการตรวจยืนยันได้แล้วว่า หญิงผู้นี้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนก สายพันธุ์ใหม่ เอช7เอ็น9
ขณะนี้มีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์ เอช7เอ็น9 ทั้งหมด 134 รายในจีนแผ่นดินใหญ่รวมทั้งในมณฑลกวางตุ้ง
สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานด้วยว่า มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 44 รายด้วยโรคไข้หวัดนกสายพันธุ์ เอช7เอ็น9 และ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นักวิทยาศาสตร์ยืนยันแล้วว่า มีการติดเชื้อโดยตรงกันได้ระหว่างคนสู่คน แต่ก็เตือนประชาชนว่าอย่าเพิ่งตื่นตระหนก เพราะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสยังอยู่ในวงจำกัดและอยู่ได้ไม่นาน
บราซิลเรียกค่าเสียหาย ซัมซุง ใช้แรงงานเยี่ยงทาส
14 ส.ค. 56 - ศาลเมืองมาเนาส์ ของบราซิล ตัดสินโทษ บ.ซัมซุง ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ของเกาหลีใต้ จากกรณีใช้แรงงานเกินชั่วโมงการทำงาน และให้ทำงานเป็นกะโดยไม่เวลาช่วงพักผ่อนที่เพียงพอ โดยให้คนงานคนหนึ่งต้องบรรจุโทรศัพท์ลงกล่องให้ได้ราว 3,000 เครื่องต่อวัน ด้านซัมซุงเตรียมฟ้องกลับ และจะตรวจสอบกระบวนการผลิตทั้งหมด โดยเชื่อว่าบริษัมสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานตามมาตรฐานสูงสุด เพื่อสุขภาพ ความปลอดภัย และเน้นเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ของพนักงานทุกคน
จากข้อมูลที่อัยการได้รับ ระบุว่า คนงานต้องทำงานถึง 15 ชั่วโมง และ 10 ชั่วโมงเป็นการยืน ซึ่งทำให้ปวดหลัง บางครั้งทำงานติดต่อกันถึงเดือนละ 27 วัน พร้อมกำหนดให้คนงานต้องประกอบโทรศัพท์ให้เสร็จภายใน 32 วินาที และประกอบโทรทัศน์ให้เสร็จภายใน 65 วินาที ส่งผลพนักงานเกิดความเครียด ทำให้รัฐบาลต้องยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายทางศีลธรรมในลักษณะกลุ่มจากซัมซุงจำนวน 250 ล้านเรอัล (ราว 3,437.50 ล้านบาท) นอกจากนี้ยังมีคนงานอีก 1,200 ราย ยื่นฟ้องซัมซุงในโทษฐานเดียวกัน
สำหรับโรงงานมาเนาส์ ของซัมซุงที่ตั้งอยู่ในเขตอุตสาหกรรมเสรีมาเนาส์ ถือเป็นฐานใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของซัมซุงจากโรงงานทั้งหมด 25 แห่งทั่วโลก มีคนงาน 6,000 คน
สหภาพแรงงานฮุนได-เกีย กว่า 45,000 คน ลงมตินัดหยุดงานประท้วงขึ้นค่าแรง
14 ส.ค. 56 - สหภาพแรงงานที่เป็นตัวแทนของพนักงานบริษัท ฮุนได มอเตอร์ และ เกีย มอเตอร์ ได้ลงมตินัดหยุดงานประท้วง หลังจากการเจรจากับฝ่ายบริหารเรื่องการปรับค่าจ้างและสวัสดิการไม่เป็นผล
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นเพียงหนึ่งปี หลังจากคนงานของฮุนได เคยนัดหยุดงานเป็นเวลา 4 เดือน ทำให้ฮุนไดต้องสูญเสียรายได้ไปกว่า 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ การนัดหยุดงานครั้งนี้ ของกลุ่มสหภาพแรงงาน จำนวน 45,000 คน คาดว่าจะเริ่มขึ้นอย่างเร็วที่สุดในวันที่ 20 ส.ค.นี้ หลังจากพนักงานของฮุนได มอเตอร์ และเกีย มอเตอร์ ซึงเป็นกิจการในเครือ มีมติหยุดงานเพื่อต้องการให้ขึ้นเงินเดือนและปรับปรุงสภาพการทำงาน
โดยข้อเสนอของสหภาพแรงงานของฮุนไดและเกีย อาทิ ต้องการให้เพิ่มเงินเดือนอีก 130,500 วอน (ราว 3,680 บาท), โบนัส 8 เดือน, การแบ่งปันผลกำไรสุทธิเมื่อปีที่แล้วร้อยละ 30 ให้แก่พนักงาน, การมอบเหรียญทองคำหนัก 56.25 กรัม ให้แก่พนักงานที่ทำงานมาครอบ 40 ปี และการจัดสรรเงินให้แก่พนักงานที่มีบุตรที่ไม่ได้เข้าเรียนในระดับวิทยาลัย รายละ 10 ล้านวอน (ราว 282,000 บาท)
นายควอน โอ-อิล โฆษกสหภาพแรงงาน เปิดเผยว่า กลุ่มไม่ต้องการก่อสไตรค์ แต่บริษัทกลับยอมรับการพิจารณาข้อเสนอหลังจากที่สหภาพประกาศการประท้วงแล้ว โดยฮุนไดของเวลาในการพิจารณาข้อเรียกร้องทั้งหมดเป็นเวลา 6 วัน
ก่อนหน้านี้ คณะผู้บริหารของฮุนไดแจ้งว่า ทางบริษัทไม่สามารถทำตามความต้องการของสหภาพแรงงาน ในช่วงเวลาที่มีการแข่งขันสูง และตลาดในต่างประเทศเติบโตช้าลง อีกทั้งรายได้ของบริษัทลดลง เพราะเสียส่วนแบ่งตลาดให้แก่คู่แข่งต่างชาติ ขณะเดียวกัน เศรษฐกิจในเกาหลีใต้และโลกกำลังอยู่ในช่วงซบเซา โดยเกียขาดทุน 1.03 ล้านล้านวอนเมื่อปี 2012 แต่ในไตรมาสสองของปีนี้ ฮุนไดมีกำไรสุทธิตกลงไปร้อยละ 1.0 จากที่ปีก่อนหน้านี้ อยู่ที่ 2.52 ล้านล้านวอน
ผู้ผลิตเหล็กญี่ปุ่นพร้อมยอมรับคำตัดสินศาลเกาหลีใต้กรณีแรงงานทาส
18 ส.ค. 56 - สื่อญี่ปุ่นรายงานว่า บริษัท นิปปอน สตีล ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ของประเทศพร้อมยอมรับคำตัดสินของศาลเกาหลีใต้และยินยอมจ่ายเงินชดเชย หากแพ้คดีแรงงานทาสสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
ศาลอุทธรณ์ของกรุงโซลมีคำได้สั่งเมื่อเดือนก่อนให้นิปปอน สตีล จ่ายเงินทั้งสิ้น 400 ล้านวอน (ราว 11.2 ล้านบาท) เพื่อเป็นเงินชดเชยให้กับเหยื่อ 4 คน ที่ทำงานโดยไม่ได้รับค่าแรงและเพื่อเยียวยาจิตใจจากความเจ็บปวดที่ต้องเผชิญทั้งก่อนและระหว่างสงครามโลก ครั้งที่ 2
นิปปอน สตีล ซึ่งขณะนี้เปลี่ยนชื่อเป็น นิปปอน สตีล แอนด์ สุมิโตโม เมทัล หลังควบรวมกิจการกับสุมิโตโมเมื่อปีก่อนกลายเป็นผู้ผลิตเหล็กที่ใหญ่เป็นอันดับสองโลก ได้ยื่นฎีกาต่อศาลฎีกาของเกาหลีใต้ แต่ก็พร้อมจะจ่ายเงินชดเชยความเสียหายหากศาลฎีกาเกาหลีใต้มีคำพิพากษายืน แหล่งข่าวในบริษัทกล่าวว่า ในฐานะที่เป็นบริษัทระดับโลก จึงไม่สามารถเพิกเฉยต่อคำตัดสินอันเป็นที่สุดได้ เพราะอาจกระทบต่อคู่ค้าทางธุรกิจในเกาหลีใต้ได้
คำตัดสินของศาลอุทธรณ์เกาหลีใต้ถือเป็นความคืบหน้าล่าสุดของคดีความที่ต่อสู้กันมาอย่างยาวนานถึง 16 ปี ยื่นฟ้องโดยชาวเกาหลีใต้ 4 คน ซึ่งถูกบังคับให้ทำงานในบริษัทดังกล่าวในช่วงก่อนและระหว่างสงคราม ปัจจุบันทั้งหมดอายุกว่า 80-กว่า 90 ปี
เผยแบรนด์เสื้อผ้าออสซี่มีแนวโน้มใช้แรงงานเด็ก
19 ส.ค. 56 - ผลการศึกษาชิ้นหนึ่งที่เปิดเผยเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ระบุว่า แบรนด์เสื้อผ้าของออสเตรเลียส่วนใหญ่ ไม่ตระหนักถึงเรื่องว่า ผ้าฝ้ายที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ของพวกเขามาจากไหน ทำให้มีแนวโน้มมากว่าจะมีการใช้แรงงานเด็กรวมอยู่ด้วย
รายงานเรื่องแฟชั่นออสเตรเลีย ที่จัดทำโดยองค์กรเอกชนไม่แสวงผลกำไร แบปติสต์ เวิลด์เอด ออสเตรเลีย สำรวจตรวจสอบ 41 บริษัท ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้า 128 ยี่ห้อ พบว่าหลายๆ บริษัทมีพัฒนาการที่ดีขึ้นในเรื่องสภาพการทำงานที่โรงงานในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่มีน้อยบริษัทมากที่รู้ว่า วัตถุดิบของพวกเขาผลิตมาอย่างไร
เกอร์ชอน นิมบอลเกอร์ หนึ่งในผู้เขียนรายงานฉบับนี้บอกว่า "หลายบริษัทมีพัฒนาการอย่างมีนัยยะสำคัญหากดูจากขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการผลิต แต่มีเพียง 40 เปอร์เซ็นต์ที่รู้ทั้งหมด หรือเกือบจะทั้งหมดเกี่ยวกับซัพพลายเออร์ในขั้นตอนต่างๆ แต่เมื่อลงลึกไปถึงขั้นตอนของวัตถุดิบ เช่นว่าผ้าที่ใช้มาจากไหน มีเพียง 7 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่รู้ ซึ่งนั่นเป็นที่ที่มีการปฏิบัติในทางที่ผิดเกิดขึ้น"
เสื้อผ้าที่ขายโดยแบรนด์ร้านค้าปลีกออสเตรเลียส่วนใหญ่ผลิตในต่างประเทศ รวมถึงบังกลาเทศที่เป็นศูนย์กลางการผลิตเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายซึ่งมีค่าแรงถูก โดยนิมบอลเกอร์บอกว่า ผ้าฝ้ายจากอุซเบกิสถาน หนึ่งในประเทศผู้ผลิตวัตถุดิบรายใหญ่ที่สุด มีการใช้แรงงานเด็กมายาวนาน และ 35 เปอร์เซ็นต์ ของสิ่งทอเหล่านี้ถูกนำมาใช้ในโรงงานที่บังกลาเทศ
แองโกล-อเมริกันประกาศเลิกจ้างงานเกือบ 7,000 ตำแหน่ง
20 ส.ค. 56 - แองโกล อเมริกัน แพลทินัม (แอมแพลทส์) บริษัทผู้ผลิตทองคำขาวรายใหญ่ที่สุดของโลก เปิดเผยว่า บริษัทจะเลิกจ้างงานพนักงานจำนวน 6,900 ตำแหน่ง เพื่อความอยู่รอดของบริษัท
คริส กริฟฟิธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแอมแพลทส์ กล่าวว่า บริษัทได้สรุปการหารือกับบรรดาผู้มีส่วนได้ส่วนเสียรายสำคัญ ซึ่งรวมถึงรัฐบาล และสหภาพแรงงาน เกี่ยวกับการแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจ
กริฟฟิธระบุในแถลงการณ์ว่า "เรากำลังอยู่ในขั้นวิกฤต และการปรับโครงสร้างจะเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยให้เรากลับมาทำกำไรได้อีกครั้ง และเพื่อให้เรามุ่งเน้นจัดสรรเงินทุนไปยังเหมืองที่จะช่วยให้เราคงความยั่งยืนทางธุรกิจ และสร้างโอกาสในการจ้างงานในระยะยาว"
ในเดือนมกราคม แอมแพลทส์ได้ประกาศเลิกจ้างงานเพื่อลดต้นทุน และปรับการดำเนินการในส่วนที่เกือบขาดทุน ภายหลังจากที่ได้มีการพิจารณาตรวจสอบธุรกิจอย่างครอบคลุม
"บริษัทจะแจ้งให้พนักงานที่จะถูกให้ออกจากงานทราบล่วงหน้า 1 เดือน โดยจะเริ่มในวันที่ 1 กันยายน เราตระหนักดีถึงผลกระทบที่มีต่อพนักงาน และเรากำลังทำงานอย่างหนักเพื่อสรุปรายละเอียดของแผนบรรเทาผลกระทบทางสังคม ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อลดผลกระทบต่อพนักงานและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องให้เหลือน้อยที่สุด"
แอมแพลทส์ระบุว่า หลังการประชุมร่วมกับกรมทรัพยากรธรณีและสหภาพแรงงานแล้ว บริษัทจึงจะดำเนินการตามแผนงานที่ได้กำหนดไว้
กริฟฟิธกล่าวว่า "ในการหารือก่อนหน้านี้ พนักงานในระดับปฏิบัติการที่จะได้รับผลกระทบจะอยู่ที่ประมาณ 6,000 ตำแหน่ง นอกจากนี้ พนักงานในระดับหัวหน้าประมาณ 900 ตำแหน่งก็จะได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน"
ทั้งนี้ บรรดาบริษัทเหมืองแร่ในแอฟริกาใต้กำลังหาทางลดต้นทุน หลังจากการประท้วงของคนงานเมื่อปีที่แล้วทำให้ค่าแรงพนักงานเพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาสินค้าลดลง
ซาอุฯ เตรียมออกวีซ่ารับ “แม่บ้านต่างชาติ” 7 แสนคนเข้าประเทศ แก้ปัญหาขาดแคลนคนทำงานบ้าน
27 ส.ค. 56 - กระทรวงแรงงานซาอุดีอาระเบียเตรียมออกวีซ่าเปิดรับ “แม่บ้านชาวต่างชาติ” มากถึง 700,000 คนเข้ามาทำงานในประเทศผ่านบริษัทจัดหางานที่รัฐบาลให้การรับรอง 10 แห่ง หลังจากราชอาณาจักรกลางทะเลทรายแห่งนี้ประสบปัญหาขาดแคลนแม่บ้านอย่างรุนแรง จนเกิดบริการจัดหาแม่บ้านผ่าน “ตลาดมืด”
รายงานข่าวระบุว่า รัฐบาลซาอุดีอาระเบียซึ่งมีปัญหากับแรงงานของหลายประเทศในช่วงก่อนหน้านี้ทั้งแรงงานฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ไทย และเอธิโอเปีย จนถึงขั้นสั่งแบนโดยสิ้นเชิงหรือไม่ก็จำกัดจำนวนแรงงานของประเทศเหล่านี้ ประกาศในวันอังคาร (27) เตรียมออกวีซ่ารองรับแรงงานต่างชาติมากถึง 700,000 คนให้เข้ามาทำงานในประเทศ ในฐานะของ “แม่บ้าน” เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนแม่บ้านของครอบครัวชาวซาอุดีอาระเบีย
ในช่วงที่ผ่านมา ปัญหาการขาดแคลนแม่บ้านเพื่อทำงานบ้านและทำความสะอาดในซาอุดีอาระเบียวิกฤตหนัก ถึงขั้นที่ต้องมีบริการจัดหาแม่บ้านในตลาดมืดจนส่งผลให้อัตราค่าจ้างแม่บ้านขั้นต่ำพุ่งสูงเกินกว่าเรตที่รัฐบาลซาอุฯกำหนดไว้ที่ 1,500 ริยัล (คิดเป็นเงินไทยราว 12,800 บาท)
อย่างไรก็ดี ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ทางการซาอุดีอาระเบียจะยินยอมให้ครอบครัวชาวซาอุฯ สามารถจ้างแม่บ้านแบบ “อยู่ประจำ” ได้อีกหรือไม่ หลังจากเคยพบปัญหาแม่บ้านอยู่ประจำลักขโมยทรัพย์สิน หรือทำร้ายนายจ้าง ขณะที่เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ทางการเพิ่งประกาศยอมให้มีการจ้างแม่บ้านแบบ “รายชั่วโมง” ได้เป็นครั้งแรก
ทั้งนี้ จำนวนแรงงานต่างชาติในซาอุดีอาระเบียจากการประเมินล่าสุดที่ทำในเดือนเมษายนปีนี้ระบุว่า มีจำนวนราว 7.5 ล้านคน โดยส่วนใหญ่เป็นแรงงานที่หนีความยากจนมาจากทวีปแอฟริกา อนุทวีปอินเดีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกมะกันเสนอประกันสุขภาพให้พนักงานคู่รักเพศเดียวกัน
28 ส.ค. 56 - สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 28 สิงหาคมว่า วัลมาร์ท ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของโลก และเป็นผู้จ้างงานเอกชนรายใหญ่ของสหรัฐ ได้เสนอให้ประกันสุขภาพให้แก่พนักงานที่เป็นคู่รักร่วมเพศ
รายงานระบุว่า ภายใต้แผนนี้ วัลมาร์ทจะทำประกันสุขภาพให้คู่รักเพศเดียวกัน ทั้งเกย์และเลสเบี้ยน โดยไม่จำกัดว่าจะต้องมีสถานภาพสมรสหรือไม่ ขอเพียงทั้งสองฝ่ายอยู่กินร่วมกัน เป็นเวลาอย่างน้อย 12 น้อย และมีความตั้งใจจะใช้ชีวิตกันไปตลอดชีพ และว่า เนื่องจากวอลล์มาร์ทมีกิจการอยู่ใน 50 รัฐทั่วประเทศ เราจึงคิดว่า เป็นเรื่องสำคัญที่จะพัฒนาการจำกัดความใหม่สำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องกับวอลล์มาร์ท เพื่อรับประกันถึงการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องต่อตลาดของวอลล์มาร์ททั่วประเทศ
รายงาระบุว่า ปัจจุบัน วัลมาร์ทมีสมาชิก 1.3 ล้านคน และบริษัทยังไม่รู้ว่า จะต้องให้สิทธิประโยชน์ดังกล่าวแก่พนักงานเป็นจำนวนเท่าไหร่ และสำหรับพนักงานที่เป็นพวกรักร่วมเพศ บริษัทจะจ่ายค่าเบี้ยประกันสุขภาพให้แก่พวกเขา 3-10 เปอร์เซนต์ของสิทธิคุ้มครองด้านการแพทย์ในปีหน้า แต่ที่ผ่านมา มีพนักงานกว่าครึ่งของวัลมาร์ทที่พึ่งพาระบบประกันสุขภาพของวัลมาร์ท โดยการเป็นสมาชิกขึ้นอยู่กับชม.การทำงาน และอายุการทำงานของพนักงานแต่ละคน
พนง.ฟาสต์ฟู้ดมะกันผละงานประท้วงทั่วประเทศ ขอขึ้นค่าแรงเป็น 15 เหรียญ/ชม.
30 ส.ค. 56 - ที่นครนิวยอร์ก ผู้ประท้วงกว่า 300 คน ได้ร่วมเดินขบวนไปยังร้านแมคโดนัลด์ส สาขาใกล้ตึกเอ็มไพร์สเตท ส่วนที่ร้านเวนดี′ส ในนครนิวยอร์ก พนักงานราว 150 คน และกลุ่มผู้สนับสนุน ได้ร่วมชุมนุมกันด้านนอกร้าน พร้อมทั้งตะโกนว่า พวกเขามีชีวิตอยู่ไม่ได้ด้วยเงิน 7.25 ดอลลาร์
นอกจากการนัดผละงานประท้วงในหลายเมืองทั่วประเทศ อาทิ นครนิวยอร์ก ชิคาโก ดีทรอยต์ บอสตัน แอตแลนต้า ฮาร์ตฟอร์ท ลอสแองเจลิส มิลวอลกี และเซนต์หลุยส์ แล้ว พนักงานห้างค้าปลีกในบางเมือง ยังร่วมออกมาประท้วงด้วย
สหภาพแรงงานร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดของสหรัฐเผยว่า พนักงานร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดกว่า 1,000 สาขาใน 60 เมือง ทั่วประเทศ ร่วมกันผละงานประท้วงเป็นเวลา 1 วัน เพื่อเรียกร้องให้มีการปรับอัตราค่าจ้างเป็นชั่วโมงละ 15 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 481.5 บาท) หรือเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ 7.25 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง (ราว 232.8 บาท)
การประท้วงครั้งนี้มีขึ้นระหว่างที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา และ ส.ส.บางราย ที่เรียกร้องให้มีการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ จาก 7.25 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นอัตราที่มีการใช้มาตั้งแต่ปี 2009 เป็น 9 ดอลลาร์ ต่อชั่วโมง
ผู้ร่วมชุมนุมส่วนใหญ่กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า ค่าตอบแทนไม่เพียงพอที่จะใช้เป็นค่าครองชีพในแต่ละเดือน บางครั้งต้องยอมทำงาน 7 วันต่อสัปดาห์ แต่มีรายได้ตลอดทั้งปีเพียง 15,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งไม่เพียงพอเนื่องจากหลายคนต้องหาเลี้ยงครอบครัวด้วย
ด้านแม็คโดนัลด์ส และ เบอร์เกอร์คิง ต่างออกแถลงการณ์ที่มีเนื้อหาใกล้เคียงกันว่า บริษัทไม่ได้รับผิดชอบการจ่ายค่าแรงของลูกจ้างร้านอาหารฟาสด์ฟู้ดส่วนใหญ่ในสหรัฐฯ ที่เปิดดำเนินการในลักษณะแฟรนไชส์ พร้อมกับแย้งว่า การปรับขึ้นค่าแรงอาจส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายโดยรวมขององค์กร และทำให้ราคาอาหารสูงขึ้น
โฆษกสมาคมร้านอาหารแห่งสหรัฐฯ กล่าวว่า ค่าแรงในระดับต่ำเป็นสิ่งสะท้อนว่า พนักงานร้านฟาสต์ฟู้ดส่วนใหญ่มีอายุน้อยและขาดประสบการณ์ การทำงาน แต่สหภาพแรงงานพนักงานบีการสากล ซึ่งสนับสนุนการประท้วงครั้งนี้ กล่าวว่า พนักงานฟาสต์ฟู้ดไม่ใช่เฉพาะเด็กวัยรุ่นอีกต่อไป และค่าแรงเฉลี่ยที่ 9.08 ดอลลาร์ ต่อชั่วโมง นับว่ายังคงต่ำกว่าเส้นความยากจน สำหรับพนักงานบางคนที่โชคดีได้ทำงาน 40 ชม.ต่อสัปดาห์ และไม่เคยลาป่วย
ที่มาเรียบเรียงจาก: เดลินิวส์, ASTV ผู้จัดการออนไลน์, สำนักข่าวไทย, โพสต์ทูเดย์, มติชนออนไลน์
ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai