การปาฐกถาพิเศษ "วัฒนธรรมหนังสือในอุษาคเนย์"โดย รศ.ดร.สุเนตร ชุตินธรานนท์
ในงานประชุมวิชาการ Thailand Conference on Reading 2013 จัดโดยสำนักงานอุทยานการเรียนรู้หรือ TK Park ระหว่างวันที่ 21 และ 22 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งจัดขึ้นเพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญที่มีบทบาทด้านการส่งเสริมการอ่านของไทยเพื่อนบ้านอาเซียนอีก 3 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย พม่า และเวียดนาม และมีการบรรยายโดยผู้เชี่ยวชาญจากอินเดียนั้น
โดยในวันที่ 22 มี.ค. มีการปาฐกถาพิเศษ “วัฒนธรรมหนังสือในอุษาคเนย์” โดย รศ.ดร.สุเนตร ชุตินธรานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยตอนหนึ่งของปาฐกถาอาจารย์สุเนตรกล่าวว่า ทุกชาติไม่เฉพาะประเทศไทย มักมองเพื่อนบ้านในฐานะที่ไม่ได้มองโดยเน้นความเป็นมนุษย์ แต่เน้นที่มิติการเป็นศัตรูในประวัติศาสตร์ หรือเฉพาะด้านเศรษฐกิจการค้า ดังนั้น ประตูสู่ความเข้าใจความเป็นมนุษย์และมีความสำคัญที่จะทำความเข้าใจประเทศเพื่อนบ้านอีกด้านหนึ่งก็คือ โลกของการอ่านหนังสือ
ในการปาฐกถาตอนหนึ่งอาจารย์สุเนตรยกตัวอย่างวรรณกรรมของประเทศเพื่อนบ้าน 2 เรื่อง เรื่องแรก คือ มาลาดวงจิต นวนิยายในกัมพูชา ที่สะท้อนเรื่องราวความรักของนักศึกษาชาวกัมพูชาในวิทยาลัยสีสุวัติ กับนิสิตหญิงที่เรียนจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งในเรื่องได้สะท้อนภาพความรับรู้ของชาวกัมพูชาต่อชาวไทยอย่างน่าสนใจ
นอกจากนี้ เรายังสามารถเรียนรู้ภูมิหลังทางสังคมของประเทศเพื่อนบ้าน ผ่านวรรณกรรมได้ด้วย โดยอาจารย์สุเนตรยังกล่าวถึงวรรณกรรมเด็กของเวียดนาม เรื่อง "ขอตั๋วหนึ่งใบกลับไปสู่วัยเด็ก"ผลงานของ "เหงวียน เหญิต อั๋นห์"ซึ่งแปลเป็นภาษาไทยแล้วโดย มนธิรา ราโท โดยวรรณกรรมนี้ได้รับรางวัลซีไรต์ในปี 2554 ซึ่งเป็นเรื่องไม่บ่อยครั้งนักสำหรับเวียดนาม ที่วรรณกรรมเยาวชน และไม่ใช่เรื่องราวของการปฏิวัติจะได้รับรางวัลในเวียดนาม
ท้ายของการปาฐกถา อาจารย์สุเนตรกล่าวว่าหนังสือคือหน้าตาที่เผยความเป็นมนุษย์ ทำให้มนุษย์เข้าใจมนุษย์อย่างที่เป็นมนุษย์ และการศึกษาหนังสือ ไม่ใช่ศึกษาแต่ตัวหนังสือ แต่ต้องทำศึกษาบริบทที่มาของหนังสือด้วย เพื่อให้เข้าใจว่าเพราะเหตุใดหนังสือเล่มนั้นจึงถูกพิมพ์ จึงเป็นที่นิยม และในขณะที่หนังสือมีบริบทของสังคมเป็นปัจจัยขับเคลื่อนให้เกิดหนังสือ หนังสือเองก็ผลักดันให้สังคมเปลี่ยนแปลงด้วยพร้อมกันไปด้วย
โดยอาจารย์สุเนตรหวังว่าการอ่านหนังสือจะเป็นพาหนะที่จะทำความเข้าใจจิตวิญญาณภูมิภาคอาเซียน และเปิดพื้นที่ให้กับสังคมไทยและเพื่อนบ้านอาเซียน