เมื่อวันที่ 31 ส.ค. 56 แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลลาวนำตัวสมบัด สมพอน ผู้นำภาคประชาสังคมซึ่งตกเป็นเหยื่อการบังคับบุคคลให้สูญหายกลับสู่ครอบครัวอย่างปลอดภัย
โดยในแถลงการณ์ระบุว่าเนื่องในวันรำลึกเหยื่อการบังคับบุคคลให้สูญหายสากลในวันที่ 30 สิงหาคม แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเรียกร้องอีกครั้งหนึ่งให้รัฐบาลลาวให้การประกันว่าจะนำตัวนายสมบัด สมพอนกลับมาอย่างปลอดภัย แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลได้ส่งข่าวไปยังนักสิทธิมนุษยชนในประเทศอื่น ๆ ให้ดำเนินการมากขึ้นเพื่อเรียกร้องให้มีการค้นหาตัวผู้นำภาคประชาสังคมซึ่งตกเป็นเหยื่อการบังคับบุคคลให้สูญหาย และให้นำตัวกลับสู่ครอบครัวอย่างปลอดภัย
การหายตัวไปของนายสมบัดเป็นประเด็นที่มีการตรวจสอบอย่างละเอียดในรายงานของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เรื่อง “จับผิดจากกล้องลาว” (“Caught on Camera”) เขาถูกจับตัวไปในช่วงค่ำวันที่ 15 ธันวาคม 2555 โดยในระหว่างนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในป้อมยามตำรวจที่กรุงเวียงจันทน์ เมืองหลวงของลาวด้วย หลังจากนั้นมาไม่มีใครทราบข่าวคราวเกี่ยวกับเขาอีก การหายตัวไปของเขาได้รับการบันทึกไว้จากกล้องวงจรปิด และครอบครัวของเขาสามารถทำสำเนาภาพวีดิโอที่บันทึกมาได้ กรณีที่ทางการลาวน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของนายสมบัด ยิ่งซับซ้อนมากขึ้นเมื่อพิจารณาว่าที่ผ่านมาตำรวจมิได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนอย่างเต็มที่ และบ่งเป็นนัยว่าอาจมีความพยายามปกปิดข้อมูล ประเทศอื่น ๆ ได้เสนอความช่วยเหลือจากภายนอก รวมทั้งการวิเคราะห์ภาพวีดิโอจากกล้องวงจรปิดที่เป็นต้นฉบับ แต่ได้รับการปฏิเสธ
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเคยมีข้อเสนอแนะหลายประการเพื่อประกันให้มีการนำตัวนายสมบัดกลับมาอย่างปลอดภัย แต่ในช่วงกว่าสองเดือนที่ผ่านหลังจากมีการเผยแพร่รายงานในกรณีนี้ ดูเหมือนว่าจะไม่มีความคืบหน้าใด ๆ ที่นำไปสู่การแก้ปัญหาอย่างเป็นผล
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลจึงเรียกร้องอีกครั้งให้ทางการลาวค้นหาตัวนายสมบัด และนำเขากลับสู่ครอบครัว และเน้นย้ำถึงข้อเสนอแนะให้รัฐบาลจัดตั้งคณะกรรมการอิสระชุดใหม่เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนอย่างไม่ลำเอียงกรณีการหายตัวไปของนายสมบัด คณะกรรมการชุดใหม่ควรแสวงหาความช่วยเหลือด้านเทคนิคจากภายนอก และให้ข้อมูลอย่างละเอียดกับครอบครัวของนายสมบัดเกี่ยวกับความคืบหน้าในการสอบสวน
การหายตัวไปของนายสมบัดเป็นประเด็นความสนใจของนานาชาติ เนื่องจากสะท้อนถึงสถานการณ์ที่เลวร้ายของเสรีภาพในการแสดงออกและสิทธิที่เกี่ยวข้องในประเทศลาว และทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับความสำเร็จของประเทศอื่น ๆ ที่พยายามกระตุ้นให้ทางการลาวเคารพและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ประเทศลาวรับเงินช่วยเหลือด้านการพัฒนาหลายร้อยล้านเหรียญในแต่ละปี ในขณะที่คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UN Human Rights Council) จะมีกระบวนการทบทวนตามวาระ (Universal Period Review) ในปี 2557 เกี่ยวกับสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในประเทศลาว และในเวลาเดียวกันรัฐบาลลาวกำลังล็อบบี้เพื่อให้ได้ที่นั่งในคณะรัฐมนตรีชุดนี้ในวาระปี 2559-2561
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลจึงเรียกร้องประเทศอื่น ๆ อีกครั้ง รวมทั้งออสเตรเลีย รัฐภาคีของสหภาพยุโรป ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ ให้ใช้อิทธิพลและเรียกร้องอย่างเป็นทางการเพื่อให้นำตัวนายสมบัดกลับมาอย่างปลอดภัย โดยควรเรียกร้องให้รัฐบาลลาวตอบคำถามที่เหลืออยู่เกี่ยวกับการหายตัวไปของนายสมบัด ให้อธิบายว่าเหตุใดการสืบสวนสอบสวนจึงมีข้อบกพร่อง และให้จัดตั้งคณะกรรมการชุดใหม่เพื่อสอบสวนกรณีนี้ กรณีที่รัฐบาลลาวไม่สามารถตอบคำถามเหล่านี้ได้ และไม่สามารถประกันให้มีการสอบสวนอย่างเพียงพอ ประเทศอื่น ๆ ควรหาแนวทางเพื่อสอบสวนกรณีการหายตัวไปของนายสมบัดด้วยตนเอง และสอบสวนถึงบุคคลที่คาดว่ามีส่วนรับผิดชอบต่อการหายตัวไป และให้นำตัวบุคคลนั้นเข้ารับการไต่สวนในระบบศาลในประเทศของตน
นอกจากนั้น แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลยังเรียกร้องคณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลอาเซียนว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (ASEAN Intergovernmental Commission on Human Rights) ให้สอบสวนกรณีการหายตัวไปของนายสมบัด และประสานงานให้ได้รับความช่วยเหลือจากผู้ชำนาญการ กรณีที่ทางการลาวดำเนินการสอบสวนใด ๆ การที่หน่วยงานด้านสิทธิระดับภูมิภาคไม่ดำเนินการใด ๆ ต่อกรณีการหายตัวไปของผู้นำภาคประชาสังคมที่มีชื่อเสียงระดับโลก ซึ่งเกิดขึ้นในประเทศที่เป็นสมาชิกของอาเซียนกรณีนี้ ทำให้เกิดการตั้งคำถามต่อความน่าเชื่อถือของหน่วยงาน และลาวเองเตรียมที่จะขึ้นเป็นประธานอาเซียนในปี 2558
จนกว่านายสมบัดจะกลับคืนสู่ครอบครัวอย่างปลอดภัย เราจะไม่มีวันลืมกรณีของเขา และจะยังคงเรียกร้องต่อไปให้นำตัวเขากลับคืนมา ในขณะที่ชื่อเสียงของรัฐบาลลาวก็จะได้รับผลกระทบต่อไปและอย่างต่อเนื่อง
ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai